เราอาจเคยได้ยิน
- Beauty Blogger (บล็อกเกอร์ความงาม)ว่าด้วยเรื่องการดูแลความงามและแนนะนำสินค้าที่มีผลต่อความงาม รวมไปถึงสายสินค้าตรงๆกันไปเลย
- Mummy Blogger(แม่บ้านเลี้ยงลูก) หรือ Parent Blogger(พ่อแม่เลี้ยงลูก)
- อ่านบล็อกเกอร์ตัวแม่ด้านนี้ ประกอบ แนะนำคือ
- Gourmet Blogger(บล็อกเกอร์สายกิน)
- Travel Blogger(บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว)
- Bike Blogger(บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวไปกับจักรยาน หรือ เพื่อการออกกำลังกายกับจักรยาน)
- Healthy Blogger(บล็อกเกอร์ด้านสุขภาพ)
- Earning Blogger/Monetize Blogger(บล็อกเกอร์ด้านหาเงินออนไลน์***watcharapong.net …ใช่)
- Life style Blogger(บล็อกเกอร์ด้านการใช้ชีวิต ว่ากันไปตั้งแต่ แฟชั่น การเข้าสังคม จนไปถึง มีความสุขในชีวิต)
เท่าที่ผมพอจะมีข้อมูล ทราบมาว่า
John Parker เริ่มบัญญัติ คำว่า weblog(เว็บล็อก)ขึ้นมาก่อนตั้งแต่ในปี1999
weblog เริ่มแรกมักเป็น
บันทึกส่วนตัว (Personal journal) มีเนื้อหาว่ากันไปตั้งแต่ประสบการณ์การทำงาน และเทคนิคการทำงานต่างๆ
นิยมมากในกลุ่มวัยเกษียณ ในอเมริกา
แม่บ้านเลี้ยงลูก (Mommy Blogger)ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกิจกรรมครอบครัว,ภาพของเด็กๆ
นอกเหนือจากนี้ก็เป็น การบล็อกเกี่ยวกับข่าวสารของกลุ่มหรือองค์กร
ต่อมาด้วยความที่คงออกเสียงลำบาก ไม่สะดวก
Peter Merchalz ได้ตัดตัว we จาก weblog(เว็บล็อก) ออกไป คงเหลือแต่คำว่า blog(บล็อก)
ในเวลาต่อมา
จึงนิยมเรียกเว็บที่แสดงศาสตร์เฉพาะทาง หรือนำเสนอเรื่องราวที่เฉพาะเจาะจง(Nich)ว่า “บล็อก”/Blog
และเรียกคนที่เขียนบล็อก(Blog/Blogging)ลงบนบล็อกว่า “Blogger”
ต่อมา
นักการตลาดออนไลน์เริ่มเห็นว่า blog เหล่านี้มีผู้ชมจำนวนมาก จึงเสนอรายได้เป็นค่าโฆษณาออนไลน์ให้
เช่น ติดแบนเนอร์บนบล็อก,ติดลิงค์
นับแต่นั้นมาการบล็อกก็ทำเงินได้ด้วย
จนมีพัฒนาการเพิ่มมาอีกหลายช่องทาง
อ่าน : “ช่องทางทำเงินจากบล็อก”ประกอบ
สรุปกันเลยดีกว่า
สำหรับผมมองว่า blogคือ Personal Journalหรือ Personal website (เว็บไซต์ส่วนตัวของใครบางคนที่สนใจในบางเรื่องราวและนำมาเผยแพร่เนื่ื้องเพราะอาจมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน)ที่มีเนื้อหาเน้นด้านศาสตร์เฉพาะทาง( nich )