ในฐานะที่ผมเป็นนักเรียนเก่าจากโรงเรียนประจำมาก่อน
,โรงเรียนภปร.ราชวิทยาลัยฯ
จึงอยากเก็บบทความดีๆนี้ไว้ใน Blog ของผมครับ
เครดิตโดย: ชัยอนันต์ สมุทวณิช
******************************************
โรงเรียนประจำเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อใดไม่มีใครทราบ แต่ในอังกฤษมีมาเป็นร้อยๆ ปี
นับว่าเป็นแหล่งอบรมบ่มนิสัยที่สำคัญมาก ผู้นำของอังกฤษส่วนใหญ่จบจากโรงเรียนประจำ
รวมทั้งแม่ทัพคนสำคัญด้วย
ถึงกับมีคำกล่าวว่า
“นโปเลียนแพ้ในสนามของโรงเรียนอีตัน”
ก็เพราะบรรดาแม่ทัพนายกองทั้งหลายของอังกฤษต่างจบมาจากโรงเรียนอีตันทั้งสิ้น
โรงเรียนประจำมีระบบการศึกษาที่พิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ
ไม่ใช่มีแต่การเรียนทางวิชาการเท่านั้น แต่มีการสอนทักษะชีวิตอีกด้วย
ทักษะชีวิตนี้เป็นสิ่งที่เด็กๆ ต่างเรียนรู้ด้วยตนเอง เพราะจะต้องใช้ชีวิตร่วมกัน
นักเรียนมีอุปนิสัยใจคอที่ต่างกัน และต้องอยู่ร่วมกัน มีการดูแลปกครองกันเอง
ดังนั้นแต่ละคนก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน เด็กเล็กๆ บางทีต้องเผชิญกับเด็กโตที่เกเร
ดังนั้นก็ต้องรู้จักหลีกเลี่ยง หรือไม่ก็หารุ่นพี่คอยปกป้องดูแล
โรงเรียนประจำในอังกฤษจะมีประเพณีอยู่อย่างหนึ่งคือเด็กโตจะมีเด็กรับใช้หรือ “เบ๊”
ที่วชิราวุธเรียกว่า “เด็กตู้” ที่อังกฤษเรียกว่า “Fag”
เวลานี้หมดไปแล้ว
แต่ก่อน “Fag” ต้องดูแลรับใช้เด็กโต ตั้งแต่ทำงานเล็กๆ น้อยๆ ให้
ที่วชิราวุธหน้าที่สำคัญก็คือ
การซักเสื้อกีฬาหรือรองเท้ากีฬาให้ ตลอดจนวิ่งไปซื้อขนมให้พี่ๆ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นนักเรียนอีตัน
ทรงเล่าว่า
เด็กโตใช้ให้พระองค์ท่านทอดไส้กรอกให้ หากไม่พอใจก็จะเขกศีรษะเอา
วันหนึ่งเสด็จอังกฤษทรงชี้ให้ผู้ติดตามดูว่า คนคนหนึ่งที่อยู่ในร้านอาหารเคยเขกพระเศียรพระองค์ท่าน
การที่เด็กๆ ต้องศึกษาอุปนิสัยของเด็กอื่นๆ ทั้งเด็กโตและเพื่อนๆ ทำให้เด็กรู้จักระมัดระวังตัว
และจัดความสัมพันธ์ให้เหมาะสมจึงจะอยู่ได้ เพราะเด็กนักเรียนประจำต้องกินนอนร่วมกันตลอดเวลา
นักเรียนไป-มาเรียนเสร็จก็กลับบ้าน ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นในการรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ
เพราะเวลาที่พบกันเป็นระยะเวลาสั้นๆ ส่วนเด็กประจำนั้นมีกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันหลายอย่าง
เช่น การร่วมสมาคมต่างๆ เช่น กีฬา โต้วาที และชมรมอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีการทำกิจกรรมอื่นๆ อีก
เช่น การจัดงาน การแสดงละคร เป็นต้น
ที่เมืองไทยมีวัฒนาวิทยาลัยเป็นโรงเรียนประจำสตรีที่มีชื่อเสียง
มีนักเรียนหลายคนที่โตขึ้นมาแล้วเป็นผู้นำสตรี
เพราะได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าก็มีภาวะผู้นำ
ดังนั้นเราจึงเห็นนักเรียนประจำเป็นผู้นำสตรีจำนวนมาก
ที่โรงเรียนประจำ เด็กจะปกครองกันเอง แน่นอนว่าจะต้องมีการใช้อำนาจในทางที่ผิด
แต่พวกเด็กโตก็ต้องรู้จักวางตัวให้เป็นที่นับถือเกรงขาม แทนที่จะปกครองโดยใช้กำลังแต่ถ่ายเดียว
ในโรงเรียนประจำจะมีธรรมเนียมของลูกผู้ชาย และการเป็นสุภาพบุรุษมีน้ำใจนักกีฬา
กล่าวคือจะไม่รังแกผู้อ่อนแอกว่า
พระยาภะรตราชา มักจะให้เด็กโตที่รังแกเด็กเล็กไปจับคู่ต่อยกับเด็กที่โตขนาดเดียวกัน
นักเรียนประจำมักจะมีชื่อเล่นที่เพื่อนตั้งให้ต่างไปจากชื่อที่บ้าน บางทีก็เรียกชื่อพ่อกัน
เช่น ลูกนายทิม โชตนา เพื่อนจะเรียกว่า “ไอ้ทิม”
เวลาไปเชียงใหม่พอเรียกไอ้ทิม ทั้งพ่อทั้งลูกก็จะหันมา
ส่วนสรรพนามที่ใช้ก็คือภาษาสมัยพ่อขุนรามคำแหง เวลาพวกนี้เจอกันมักจะเรียกชื่อต้นว่า
“เหี้ย” จนติดปาก
การเป็นนักเรียนประจำช่วยให้คนรู้จักเอาตัวรอด แต่ก็ให้เป็นคนที่สู้คนด้วย
มิฉะนั้นก็จะถูกรังแกเรื่อยไป นอกจากนั้นก็ต้องมีความอดทนเพราะชีวิตโรงเรียนประจำมีความลำบาก
รู้จักเอื้อเฟื้อแบ่งปันกัน ทำให้ไม่เป็นคนเห็นแก่ตัว
เวลานี้เหลือโรงเรียนประจำอยู่ไม่กี่แห่ง นับว่าโรงเรียนประจำเป็นแหล่งฝึกอุปนิสัยใจคอเด็กได้ดีกว่า
อยู่บ้านเพราะต้อง “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” ตลอดเวลา
*****************************************************
สำหรับผม ส่วนที่ได้มากที่สุดคือ “ความสามัคคีกลมเกลียวไม่แปรผัน”
วันที่ออกจากโรงเรียนประจำ ได้ไปใช้ชีวิตแบบนักเรียนไป-กลับ ผมกลับรู้สึกว่าผมไม่ชอบซะงั้น
ไปเรียนกว่าจะนั่งรถเมล์ในกทม.กลับถึงบ้านก็ดึกแล้ว เสียเวลาอยู่บนรถเยอะมาก
ผมได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตทั้งแบบนักเรียนโรงเรียนประจำ และแบบนักเรียนไป-กลับ
พบว่าเด็กนักเรียนจากโรงเรียนประจำมีความสามมัคคีรักกันมากกว่า
แม้ในโรงเรียนประจำหญิงล้วน อย่างโรงเรียนราชินีบนที่มีทั้งเด็กประจำและเด็กไป-กลับ
น้องสาวผมเป็นนักเรียนไป-กลับได้เคยตั้งข้อสัเกตว่า
นักเรียนที่เป็นเด็กประจำจะมีความรักสามัคคีกันมากกว่านักเรียนไป-กลับอย่างเห็นได้ชัด
อยู่โรงเรียนประจำตอนเลิกเรียน ลงจากตึกเรียนก็ขึ้นหอนอนเลย
ไม่เคยต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางบนรถเมล์
กิจกรรม…ช่วงเย็นได้เอาเวลาไปเล่นกีฬา แข่งกีฬา
หัวค่ำ เป็นเวลาทำการบ้าน อ่านหนังสือนอน ไม่ก็โดนรุ่นพี่พีเฟ็คซ่อมกันไปตามระเบียบ
สนุกดี
พอเรียนที่ สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ผมเลือกไม่ไป-กลับ เลือกที่จะเรียนเสร็จแล้วอยู่หอดีกว่าไม่กลับบ้านทุกวัน
ไปเรียนเช้า
ช่วงเย็น เรียนเสร็จ
ไปซ้อมกับชมรมรักบี้ แล้วค่อยกลับหอพักใกล้ๆสถาบันดีกว่า
ตอนไปแข่งรักบี้ยังได้พบเจอเพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องราชวิทย์กับเพื่อนๆวชิราวุธด้วยกันที่สนามแข่ง
เช่่นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่เรียนกำลังเรียนอยู่ใน นายร้อยจปร. ,ม.เชียงใหม่
, สถาบันพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ,โรงเรียนนายเรือ , ,ม.มหานคร , ม.มศว. , ม.ธุรกิจบัณฑิต , ม.กรุงเทพ , ม.ธรรมศาสตร์ , ม.จุฬา และ ม.มหิดล
-ขอบคุณสำหรับการติดตามและกลับเข้ามาอ่านอีกครั้งครับ-